<iframe src="https://www.googletagmanager.com/ns.html?id=GTM-52DKJGF" height="0" width="0" style="display:none;visibility:hidden">
Univers_article_what_is_a_Chronometer
ดูบทความล่าสุด

โครโนมิเตอร์คืออะไร?

มักมีความเข้าใจผิดและสับสนระหว่างโครโนมิเตอร์และโครโนกราฟ โดยทั่วไปแล้วโครโนมิเตอร์คือกลไกการทำงานของนาฬิกาจักรกลความเที่ยงตรงสูงที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงอันเข้มงวดในช่วงระยะเวลาหนึ่งในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

การทดสอบโครโนมิเตอร์เป็นการวัดกลไกการทำงานของนาฬิกาโดยใช้มาตรฐานความเที่ยงตรงที่กำหนดขึ้นในสภาวะที่ต่างกันและในอุณหภูมิที่ต่างกัน

แบรนด์นาฬิกาต่างๆ ใช้องค์กรอิสระที่มีความเป็นกลางเป็นผู้ดำเนินการทดสอบแต่ละครั้ง เนื่องจากการทดสอบความเที่ยงตรงมีความเข้มงวด นาฬิกาที่ผ่านการรับรองโครโนมิเตอร์จึงมีเปอร์เซนต์ที่น้อยมากในตลาดปัจจุบัน นาฬิกาแต่ละเรือนจะต้องผ่านการทดสอบอันเข้มข้นกว่าจะได้คำว่า "Chronometer" มาประดับบนหน้าปัด

ถึงตอนนี้คุณคงเข้าใจในมาตรฐานการรับรองโครโนมิเตอร์แล้ว มาดูกันว่าโครโนมิเตอร์ค่อยๆ พัฒนาเข้าสู่การรับรองสมัยใหม่ได้อย่างไร

ประวัติของโครโนมิเตอร์

โครโนมิเตอร์ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 หลังจากมีการค้นคว้าและพัฒนามาเป็นสิบปี ในช่วงคริสศักราช 1600 จนถึง 1700 การออกสำรวจเส้นทางเดินเรือกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง เรือจำนวนมากแล่นชนโขดหินและแตกลงเพราะไม่สามารถค้นหาเส้นลองจิจูด เนื่องจากบนเรือไม่มีนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงเพื่อทำการคำนวณ ในปี 1707 มีอุบัติเหตุทางทะเลเกิดขึ้น กะลาสีกว่า 2,000 คนเสียชีวิตเพราะเรือของสหราชอาณาจักรแล่นชนกลุ่มหินอันแหลมคมในการเดินเรือเที่ยวกลับ ส่งผลให้ในปี 1714 รัฐบาลสหราชอาณาจักรจัดการแข่งขันที่เรียกว่า Longitude Act พร้อมรางวัลมหาศาลเทียบเท่ากับเงินจำนวนหลายล้านในปัจจุบัน เพื่อดึงดูดผู้ผลิตนาฬิกาและนักวิทยาศาสตร์ให้พัฒนาวิธีที่ "แม่นยำและมีประโยชน์" ในการหาเส้นลองจิจูดในท้องทะเลกว้าง

โครโนมิเตอร์สำหรับการเดินทางทางทะเลเรือนแรกได้รับการคิดค้นและผลิตโดยช่างผลิตนาฬิกา จอห์น แฮร์ริสัน (John Harrison) ผู้นำวัสดุต่างๆ มาประกอบเป็นชิ้นส่วนไร้การเสียดทานที่ไม่ก่อให้เกิดสนิม เขาใช้เวลาอีกหลายปีหลังจากนั้นในการโน้มน้าวคณะกรรมการลองจิจูด (Longitude Board) ว่านาฬิกาใช้งานได้จริง หลังจากได้ร่วมเดินทางทางทะเลหลายครั้ง นาฬิกาดังกล่าวก็ได้รับการยอมรับว่ามีความเที่ยงตรงจริงเมื่ออยู่ในทะเล สุดท้ายเมื่อมีการติดตั้งนาฬิกาที่ทำงานได้อย่างเที่ยงตรงไว้ในตำแหน่งถาวร (เวลามาตรฐานกรีนิช) กะลาสีก็สามารถทำการคำนวณเมื่อถึงเวลาเที่ยงตรงตามเวลาท้องถิ่นและระบุลองจิจูดของเรือได้อย่างรวดเร็ว ไม่เพียงรักษาชีวิตและเรือเอาไว้ แต่ยังทำให้ประเทศต่างๆ สามารถพัฒนากำลังด้านการเดินเรือและการออกสำรวจของตนเอง

ต่อมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1880 Longines มีส่วนร่วมในการจับเวลาที่มีความเที่ยงตรงสูงและผลิตกลไกการทำงานตัวแรกในฐานะโครโนมิเตอร์ที่ผ่านการรับรอง นั่นคือ calibre 21.59 กลไกโครโนมิเตอร์นี้มีรากฐานมาจาก calibre ที่พัฒนาขึ้นในปี 1878 ที่ถูกดัดแปลงเพื่อปรับปรุงให้มีความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น

L2.821.4.11.6 Longines Record watch
L2.821.4.11.6 case back Longines Record watch

การทดสอบนาฬิกาข้อมือโครโนมิเตอร์

เป็นเวลาหลายศตวรรษที่นาฬิกาค่อยๆ พัฒนาขึ้นและนาฬิกาข้อมือเริ่มเป็นที่รู้จัก คอนเซปต์ในการนำสถานะโครโนมิเตอร์มาไว้บนข้อมือยังคงเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันนาฬิกาข้อมือสามารถได้รับสถานะโครโนมิเตอร์หากกลไกการทำงานภายในผ่านการรับรองตามมาตรฐานที่เข้มงวดโดยหอสังเกตการณ์ภายนอก

สถานที่ทดสอบโครโนมิเตอร์ตั้งอยู่ในเบอซ็องซง ประเทศฝรั่งเศส แคว้นแซกโซนี ประเทศเยอรมนี ประเทศญี่ปุ่น และสถานที่อื่นๆ ทั่วโลก รวมถึงอีกหลายแห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เกณฑ์กำหนดโครโนมิเตอร์ของแต่ละหอสังเกตการณ์อาจแตกต่างกันออกไป สำหรับนาฬิกาสวิส หอสังเกตการณ์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องมากที่สุดคือ Controle Officiel Suisse des Chronometers (COSC) ซึ่งมีอยู่ 3 แห่งในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อนักสะสมกล่าวว่านาฬิกาของพวกเขาได้รับการ "รับรองโดย COSC" นั่นหมายความว่าการรับรองโครโนมิเตอร์มาจาก Controle Officiel Suisse des Chronometers

หากพูดถึงมาตรฐาน COSC เกณฑ์การรับรองเป็นไปตามมาตรฐาน ISO 3159 ในการได้มาซึ่งการรับรองโครโนมิเตอร์จาก COSC นาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบเป็นเวลา 15 วันในตำแหน่งที่แตกต่างกัน 5 จุด และในหลายสภาวการณ์ เช่น สภาวะขั้นสุดด้านอุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ และอื่นๆ อีกมาก มีการวัดผลและเปรียบเทียบกับนาฬิกาปรมาณูอิสระสองเรือนทุกวัน

ระหว่างการทดสอบ นาฬิกาจะถูกจัดวางไว้ในตำแหน่งต่างๆ ได้แก่ 3 นาฬิกา 6 นาฬิกา 9 นาฬิกา หน้าปัดอยู่ด้านบน และหน้าปัดอยู่ด้านหลัง นาฬิกาแต่ละเรือนจะคงอยู่ในตำแหน่งเดิมและในอุณหภูมิที่จัดไว้เป็นเวลา 24 ชั่วโมง แต่ละวันจะมีการนำนาฬิกาออกไปวัดผลเพียงครู่เดียว.

เฉพาะนาฬิกาที่ตรงกับเกณฑ์มาตรฐานด้านความเที่ยงตรงเท่านั้นที่จะผ่านการรับรองโครโนมิเตอร์อย่างเป็นทางการ นาฬิกาจักรกลไม่ควรบอกเวลาแตกต่างกันในแต่ละวันเกิน -4 หรือ +6 วินาทีต่อวัน มีเพียง 3% ของนาฬิกาที่ผลิตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์โดยประมาณที่สามารถผ่านกระบวนการรับรองของ COSC การรับรองโครโนมิเตอร์ทำให้แน่ใจว่านาฬิกาจักรกลที่ผ่านการทดสอบแต่ละเรือนมีความทนทานและความเที่ยงตรงเชื่อถือได้

เมื่อแบรนด์ต่างๆ ใช้กลไกโครโนมิเตอร์ภายในนาฬิกา ส่วนใหญ่จะระบุคำว่า "chronometer" ไว้บนหน้าปัด หลังจากผ่านอุปสรรคมากมายกว่าจะได้รับสถานะดังกล่าว

ในการได้มาซึ่งการรับรองโครโนมิเตอร์จาก COSC นาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบเป็นเวลา 15 วันในตำแหน่งที่แตกต่างกัน 5 จุด และในหลายสภาวการณ์ เช่น สภาวะขั้นสุดด้านอุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ และอื่นๆ อีกมาก

โครโนมิเตอร์ของ Longines

บ่อยครั้งที่โครโนมิเตอร์รวมนวัตกรรมอื่นๆ ภายในกลไกการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเที่ยงตรง ตัวอย่างเช่น Longines ผลิตกลไกโครโนมิเตอร์ด้วยลานสมดุลซิลิคอนที่มีอายุการทำงานอันยาวนาน ลานสมดุลเป็นอวัยวะควบคุมของนาฬิกาที่กวัดแกว่งรอบตำแหน่งดุลยภาพของตนเองเพื่อปฏิบัติหน้าที่สำคัญนั่นก็คือ การคงจังหวะให้เป็นปกติ ในการใช้ลานสมดุลซิลิคอน วัสดุดังกล่าวมีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิตามปกติ สนามแม่เหล็ก และความกดอากาศ

ปัจจุบัน Longines มีนาฬิกา 2 คอลเลคชั่นจากจำนวนนาฬิกาทั้งหมด ที่ทุกเรือนผ่านการรับรองโครโนมิเตอร์ คอลเลคชั่นดังกล่าวได้แก่ Record Collection และ Longines Spirit นาฬิกาทุกเรือนวางจำหน่ายพร้อมใบรับรองโครโนมิเตอร์เพื่อยืนยันความเที่ยงตรงสูงสุดและการรับประกันเป็นเวลา 5 ปี